320X50

728X90

300X250

ฟัง 2 มุม สาวท้องสุดช้ำ ขอความเป็นธรรม สามีจดทะเบียนสมรสซ้อนในวันวาเลนไทน์



สาวท้อง 2 เดือนสุดช้ำ ร้องขอความเป็นธรรม หลังสามีจดทะเบียนสมรสซ้อนหญิงอื่นใน "วันวาเลนไทน์" ขณะที่ฝ่ายชายยอมรับ จดทะเบียนสมรสซ้อนจริง พร้อมยินดีรับผิดชอบหากเป็นลูกเขาจริงๆ

วันที่ 20 ก.พ. 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.มุก อายุ 25 ปี ผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จ.เลย ว่า สามีวัย 27 ปี ไปจดทะเบียนสมรสซ้อนกับหญิงอื่นในวาเลนไทน์ โดยโพสต์ในเฟซบุ๊ก และไม่รับผิดชอบลูกในท้อง

น.ส.มุก เล่าว่า ตนเองอยู่กินกับสามที่มีชื่อว่า นายบีม อายุ 27 ปี ได้ประมาณ 1 ปี 2 เดือน ซึ่งแต่ก่อนคบกัน นายบีมก็ยอมรับว่า เคยมีลูกกับภรรยาเก่ามาแล้ว 2 คน และเลิกกับภรรยาคนนั้นไปแล้ว แต่ภรรยาเก่าไม่ยอมย้ายออกจากบ้าน ซึ่งบ้านของนายบีมเปิดเป็นอู่ซ่อมรถอยู่ที่ อ.เชียงคาน นานๆ ครั้งถึงจะแวะมาหาที่อำเภอเมือง และก็ไม่รู้ว่านายบีมยังใช้ชีวิตร่วมกันกับภรรยาเก่าอยู่ จู่ๆ วันที่ 15 ก.พ. เห็นว่าเฟซบุ๊กของภรรยาเก่าที่นายบีมอ้างว่าเลิกกันไปแล้วนั้น โพสต์รูปภาพใบทะเบียนสมรสที่เพิ่งจดทะเบียนกันไปในวันที่ 14 ก.พ. หรือวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา โดยมีนายอำเภอเชียงคานเป็นคนมอบใบทะเบียนสมรสให้

ทั้งนี้ ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงมีการจดทะเบียนสมรสซ้อน เพราะวันที่ 9 ม.ค. เธอกับนายบีมเพิ่งจะไปจดทะเบียนสมรสด้วยกันมาที่ อ.เมืองเลย เมื่อโทรไปสอบถามนายบีม แต่ภรรยาเก่าของนายบีมเป็นคนรับสาย และพูดว่า นี่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นก็มีการด่าทอกันเกิดขึ้น

ขณะที่ หลังจดทะเบียนกับนายบีม เมื่อ 9 ม.ค. จนมาวันที่ 27 ม.ค. ตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน นายบีมก็ทราบข่าวและรู้สึกดีใจ เหมือนจะได้เป็นพ่อคน แต่พอหลังวันที่ 15 ก.พ. หลังทราบว่านายบีมแอบไปจดทะเบียนซ้อน เธอจึงสอบถามเรื่องความรับผิดชอบเรื่องลูก โดยเรียกร้องค่าเลี้ยงดู 3 แสนบาท พร้อมกับตัดความสัมพันธ์ แต่นายบีมปฏิเสธว่าไม่มีเงินให้ และตอบกลับว่า "ทำไมไม่รู้จักป้องกัน" พร้อมกับจะให้เธอนั้นไปตรวจ DNA ลูกในท้อง ว่าใช่ลูกของนายบีมหรือไม่ วันนี้จึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ฝ่ายชายออกมารับผิดชอบ และอยากได้รับคำตอบจากทางอำเภอเชียงคาน ว่าทำไมนายบีมถึงสามารถจดทะเบียนสมรสได้ 2 ครั้ง

SPONSORED

จากการสอบถาม นายบีม เจ้าตัวยอมรับว่า จดทะเบียนสมรสซ้อนจริง โดยจดกับน.ส.มุก เมื่อ 9 ม.ค. เป็นเพราะว่า น.ส.มุก ทวงถามเรื่องการจดทะเบียนสมรสหลายครั้ง ก็เลยยอมไปจดให้พ้นๆ ไป ส่วนเมื่อ 14 ก.พ. ภรรยาคนปัจจุบัน น.ส.กระติก (นามสมมติ) อยากจดทะเบียนสมรส เพราะเห็นว่าอยู่ด้วยกันมา 11 ปี มีลูกด้วยกันมาแล้ว 2 คน ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็เลยยอมไปจด ซึ่งตนก็รู้อยู่แก่ใจว่า เพิ่งจดทะเบียนสมรสกับมุกไปก่อนหน้านี้ และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น

ทั้งนี้ นายบีม โต้กลับ น.ส.มุก ว่าไม่เคยบอกว่าเลิกกับภรรยาไปแล้ว ซึ่ง น.ส.มุก ก็ทราบมาตลอดว่าเขากับกระติกยังคบกันอยู่ มีลูกด้วยกัน 2 คนอยู่ที่บ้าน ส่วนเรื่องลูกในครรภ์ของ น.ส.มุก ยินดีจะรับผิดชอบหากเป็นลูกเขาจริงๆ เพราะระหว่างแอบคบซ้อนกัน ฝ่ายหญิงก็มีคนคุยหลายคน และขอให้มีการตรวจ DNA ลูกในครรภ์ก่อน ฝั่งของตนไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่พอติดต่อไปหาฝ่ายหญิงให้มาไกล่เกลี่ย เจ้าตัวอ้างติดงาน บ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาพูดคุยด้วย

สำหรับเรื่องการจดทะเบียนสมรสซ้อน หลังเพิ่งจดทะเบียนสมรสกับภรรยาเมื่อ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เขากับภรรยา ก็เซ็นใบหย่าไปเมื่อ 16 ก.พ. เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย และพยายามจะติดต่อ น.ส.มุก ให้มาเซ็นใบหย่าด้วย แต่ก็ไม่ยอมมา ยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดตัวเองทั้งหมด

ส่วนประเด็นเรื่องการจดทะเบียนสมรสซ้อน นายพนิต ยอดพานิช ปลัดอำเภอเชียงคาน เผยว่า วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา มีคู่รักมาจดทะเบียนสมรสเยอะกว่าวันธรรมดาประมาณ 20 คู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการแค่คนเดียว ส่วนคู่รักที่มีการจดทะเบียนสมรสซ้อน เจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลอย่างละเอียด โดยฝ่ายชายให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า คบหากับภรรยามา 11 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน ยืนยันไม่เคยจดทะเบียนสมรส เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้ตามขั้นตอน

กระทั่งวันถัดมา 15 ก.พ. ฝ่ายหญิงผู้เสียหาย ได้เดินทางไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ ในที่ว่าการอำเภอเมืองเลย ว่าสามีของเธอจดทะเบียนสมรสซ้อน ที่อำเภอเชียงคาน เจ้าหน้าที่อำเภอเมือง จึงติดต่อมาหาทางอำเภอเชียงคาน ตรวจสอบพบว่าฝ่ายชายนั้นมีชื่อที่ปรากฏว่าจดทะเบียนสมรสซ้อนจริง จึงได้มีการเรียกฝ่ายชาย กับภรรยาที่เพิ่งจดทะเบียนสมรสซ้อนมาสอบถาม โดยฝ่ายชายอ้างว่าวันที่ 9 ม.ค. ฝ่ายหญิงที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย ได้ชวนไปทำธุระที่อำเภอเมืองเลย จากนั้นอีก 2 วัน ฝ่ายหญิงก็นำเอกสารมาให้เซ็นในปั๊มน้ำมัน โดยฝ่ายชายอ้างว่าไม่รู้ว่าเอกสารที่เซ็นนั้นเป็นใบทะเบียนสมรส

แต่ทางเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม กลับพบว่าฝ่ายชายได้เซ็นเอกสารครบถ้วนทั้ง 3 แผ่น และยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีการนำเอกสารมาให้เซ็นในปั๊มน้ำมัน เพราะใบทะเบียนสมรสนั้น ต้องเซ็นต่อหน้าเจ้าพนักงาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ว่าการจดทะเบียนระหว่างนายบีม กับ น.ส.มุก ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเลย เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ หรือมีการทุจริตตามที่นายบีมกล่าวอ้าง แต่หากพบว่าเป็นไปอย่างถูกต้องและมีเจ้าหน้าที่เป็นพยานชัดเจน นายบีมอาจถูกแจ้งข้อหา "ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานราชการ" ฐานความผิดที่โกหกเจ้าหน้าที่ว่า "ยังไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน" จนนำไปสู่การจดทะเบียนสมรสซ้อนในครั้งนี้.

Posting Komentar

0 Komentar